top of page
Admin กางเต๊นท์คลับ

วัดพลับ บางกะจะ จันทบุรี

วัดพลับ เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมชื่อ วัดสุวรรณติมรุธาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ราวปีพุทธศักราช 2300 มีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในบริเวณวัด

จากตำนานคำบอกเล่า กล่าวว่า วัดพลับ แห่งนี้ สร้างโดย ชาวจีนแต้จิ๋ว เพราะในสมัยนั้นมีชาวจีนอาศัยอยู่หนาแน่น จนกลายเป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดของทางภาคตะวันออก ได้นิมนต์ พระอาจารย์ทอง จากวัดแห่งหนึ่ง (ไม่ปรากฏชื่อ) อยู่ใกล้ วัดโบสถ์พลอยแหวน ร่วมกับ พระธุดงค์ จาก กรุงศรีอยุธยา ช่วยกันสร้าง เดิมชื่อ วัดสุวรรณติมรุธาราม แปลว่า วัดพลับทอง ด้วยใกล้วัดมี ต้นพลับ อยู่จำนวนมาก ชาวบ้านจึงพากันเรียก วัดพลับ บ้างก็เรียก วัดพลับบางกะจะ เพราะวัดตั้งอยู่ใกล้ ตลาดเก่าบางกะจะ

วัดพลับ มีความเกี่ยวเนื่องกับ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช กล่าวคือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช เมื่อครั้งเป็นที่ พระยาวชิรปราการ ได้พาทหาร 500 คน ตีฝ่าวงล้อมทหารพม่ามุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกของไทย ก่อนจะเสีย กรุงศรีอยุธยา ให้กับพม่าเป็นครั้งที่ 2 พระยาวชิรปราการ สู้รบฝันฝ่าพาสมัครพรรคพวกเคลื่อนทัพลงไปจนถึง เมืองระยอง ณ ที่แห่งนี้ พระยาวชิรปราการ ได้สถาปนาตนเป็น พระเจ้าตากสิน โดยการยอมรับจากไพร่พลทั้งปวง ครั้นจะเคลื่อนทัพเข้าสู่ เมืองจันทบูร (จันทบุรี) แต่ พระยาจันทบูร ไม่ยอมอ่อนน้อม กลับปิดประตูเมืองสั่งทหารป้องกันเชิงเทินอย่างเข้มแข็ง แต่ท้ายที่สุดก็แพ้กุศโลบายอันแยบคายของ พระเจ้าตากสิน โดยตรัสให้ หลวงพิชัยอาสา เรียกประชุมแม่ทัพนายกองว่า คืนนี้จะต้องเข้าตี เมืองจันทบูร ให้จงได้ และในเย็นวันนั้นเอง หลังจากเหล่าทหาร และรี้พลกินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระเจ้าตากสิน ได้สั่งแม่ทัพนายกองว่า เราจะตีเมืองจันท์ในค่ำวันนี้ เมื่อกองทัพหุงข้าวเย็นกินเสร็จแล้ว ทั้งนาย และไพร่ให้เททิ้งอาหารที่เหลือ และต่อย (ทุบ) หม้อเสียให้หมด หมายไปกินข้าวเช้าด้วยกันที่ในเมืองเอาพรุ่งนี้ ถ้าตีเอาเมืองจันท์ไม่ได้ในค่ำวันนี้ ก็จะได้ตายเสียด้วยกันให้หมดทีเดียว ในที่สุดก็ตี เมืองจันทบูร ได้สำเร็จ

จากตำนานคำบอกเล่าสืบต่อกันมา ก่อนกองทัพ พระเจ้าตากสิน จะเข้าตี เมืองจันทบูร ได้มีการทำพิธีทางพระพุทธศาสนา ณ วัดพลับ (วัดพลับ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี) สร้าง พระยอดธง และประพรมน้ำมนต์ให้กับทหารทุกคนในกองทัพ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารให้เกิดความฮึกเหิม กล้ารบเพื่อชาติมากขึ้น ด้วยพุทธคุณทำให้ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดตลอดกาล นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังให้พุทธคุณด้าน โชคลาภ เมตตามหานิยม อีกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดพลับ

  1. ตู้พระไตรปิฎก เป็นตู้ไม้ลงรักปิดทอง เขียนลายรดน้ำศิลปะแบบ อยุธยาตอนปลาย

  2. หอพระไตรกลางน้ำ โครงสร้างเป็นเรือนไม้ทรงไทยขนาดกลาง หลังคาสองชั้นทรงจั่วมีระเบียงรอบหอ ตกแต่งอย่างประณีตทั้งหลัง สร้างอยู่ในสระน้ำ มีเสารองรับหลังคาเป็นของเดิม เขียนลายรดน้ำปิดทอง ได้มีการบูรณะซ่อมแซม เมื่อปีพุทธศักราช 2518 และได้ปรับปรุงบูรณะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

  3. พระเจดีย์กลางน้ำ เป็นพระเจดีย์ระฆังทรงกลม ก่ออิฐหินปูน สูงประมาณ 8 เมตร ไม่ประดับกระเบื้อง ยกฐานสูง ตัวองค์ระฆังขนาดเล็กมีส่วนประกอบทั้ง 4 ด้าน ลักษณะศิลปะแบบอยุธยาตอนกลาง ได้รับการบูรณะ เมื่อปีพุทธศักราช 2481 และมีการบูรณะมาจนถึงปัจจุบัน

  1. สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนานกล่าวว่า ได้นำน้ำบริเวณ พระเจดีย์กลางน้ำ ณ วัดพลับ แห่งนี้ มาใช้ประกอบในการทำน้ำพระพุทธมนต์ เนื่องในงานพิธีมงคลต่าง ๆ ในครั้ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ทำการกอบกู้ชาติแผ่นดิน กล่าวคือ ก่อน พระยาวชิรปรากร (สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช) จะเข้าตี เมืองจันทบูร (จันทบุรี) นั้น ได้มาทำพิธีทางพระพุทธศาสนา พาเหล่าบรรดาทหารหาญมาประพรมน้ำมนต์ที่ วัดพลับ ก่อนออกสู้รบ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจนอกจากนี้ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี นับแต่ต้นราชวงศ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช ลุถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช พ่อหลวงองค์ปัจจุบันของปวงชนชาวไทย น้ำพระพุทธมนต์ วัดพลับ ได้รวบรวมน้ำมาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน เมืองจันท์ ได้แก่ น้ำจากถ้ำพระนารายณ์ ตำบลคลองนารายณ์ น้ำที่สระแก้ว ตำบลพลอยแหวน มารวมกัน แล้วทำพิธีนำน้ำพระพุทธมนต์พุทธาภิเษกตลอด 3 วัน 3 คืน ณ พระอุโบสถวัดพลับ แห่งนี้

  1. วิหารไม้ ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา ตัววิหารตั้งอยู่ทางทิศเหนือหน้าวัด รูปทรงเป็นเรือนไม้สี่เหลี่ยมจัตุรัส มีฐานปูนวางพื้น หลังคาทรงจตุรมุข ตรงส่วนยอดประดับด้วยพระเจดีย์ขนาดเล็ก เครื่องลำยองหรือปั้นลม เป็นไม้แกะสลักสวยงาม ช่องลมทั้ง 4 ด้าน ถูกประดับด้วยฉลุลวดลายไม้ ภายในวิหารไม้สร้างด้วย ไม้ตะเคียน ทั้งหลัง มีขนาดกว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 7 เมตร ฝาผนังสูงประมาณ 3.50 เมตร กับส่วนยอดจัตุรมุข 3.50 เมตร วิหารไม้แห่งนี้ ภายในมี ภาพวาดพุทธประวัติ เป็นงานฝีมือช่างท้องถิ่น แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ภาพวาดสีบนฝาผนัง ชำรุดเกือบหมด เพราะกระเบื้อง หลังคาวิหารแตก ทำให้ฝนตกรั่วซึม ภาพวาดสีจึงลบเลือนเกือบหมด กรมศิลปากร ได้ปฏิสังขรณ์วิหารไม้แห่งนี้ครั้งหนึ่ง ด้วยการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา บูรณะเมื่อเดือนเมษายน พุทธศักราช 2546

  2. พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา หรือเรียกทั่วไปว่า ปางทรมาร เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ประดิษฐานภายใน วิหารไม้ หล่อด้วย สำริดลงยาปิดทองคำเปลว องค์พระพุทธรูป มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 120 เซนติเมตร สูงประ มาณ 2 เมตร สร้างใน สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายหลังจากสร้าง วัดพลับ ได้ราว 10 ปีเศษ มีอายุไล่เลี่ยกับ พระประธานในพระอุโบสถ พระพุทธรูป ปางบำเพ็ญทุกรกิริยา ตั้งประดิษฐานบนแท่นปูน ติดหินอ่อน หลังจากประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปีพุทธศักราช 2532 มีเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของ พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา วัดพลับ หากใครที่มีความประสงค์จะบันทึกภาพพระพุทธรูปองค์นี้ ควรต้องจุดธูปบอกกล่าวเสียก่อน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว จะไม่สามารถบันทึกภาพได้เลย

  1. พระปรางค์ สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2441 องค์พระปรางค์ สูงประมาณ 20 เมตร ประกอบด้วยซุ้มประตู 4 ทิศ เหนือประตูเป็นรูปราหูอมจันทร์ ตัวพระปรางค์ ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ 2 ชั้น มีบันไดทางขึ้น 4 ทาง ส่วนของยอดพระปรางค์ซ้อนขั้น มีเชิงบาตรรองรับตัวพระปรางค์ขนาดเล็ก ประดับประดาด้วยเศียรช้างทั้ง 4 ทิศ ยอดพระปรางค์เป็นตรีศูร

  1. สำซ่าง เป็นที่สำหรับเผาศพแบบโบราณ ซึ่งเหลืออยู่ที่ วัดพลับ เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย มีลักษณะเป็นหลังคาลดหลั่น 5 ชั้น ยอดแหลมมุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเต่า (กระเบื้องดินเผาปลายตัดเป็นมุมแหลม ผิวด้านสีแดงตามเนื้อดิน ใช้มุงหลังคา โบสถ์ วิหาร) ด้วยผ่ายฤดูกาลมาอย่างยาวนาน ลำซ่าง เดิม ได้หักพังลง แต่ปัจจุบันได้ซ่อมแซมบูรณะสมบูรณ์แล้ว แต่ยังคงรูปลักษณะเดิมไว้

วัดพลับได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรตั้งแต่ปี 2523

การเดินทาง

รถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองใช้ ถ.ท่าแฉลบ ออกจากตัวเมืองประมาณ 5 กม. ผ่านบ้านทำเนียบเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3147 เมื่อเลยค่ายเนินวงมาประมาณ 1 กม. เศษ ทางซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางเข้าวัดพลับบางกะจะ เข้าทางเดียวกับตลาดบางกะจะห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 200 ม. วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ

ที่อยู่

หมู่ที่ 1 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี

ข้อมูล จันทบูรดอทเนต

งานประจำปีของ ต.บางกะจะ ณ วัดพลับ มีขนม อาหาร ไทย โบราณ ของจันทบุรี หลายอย่างมาเปิดบูธขาย จำนวนมากหลายร้าน

อุโบสถใหม่

ไก่ชน มีจำนวนมากมายในวัด สีสวยงาม

ส่วนหนึ่งของหมู่บ้านในตำบลบางกะจะ จันทบุรี

Wat Pho is a monastery of ancient and historical significance called Wat Suwanmintaram. Located at Mu 1, Tambon Bang Kae, Amphoe Mueang, Chanthaburi. Built during the Ayutthaya period. By the year 2300 there is a sacred pool within the temple grounds.

According to the legend, the narrator said that the monk was built by the Chaozhou Chinese. Because in those days, the Chinese lived densely. It became the largest Chinese community in the East. From a temple (Unidentified) near the Temple of the Ring with a pagoda from Ayutthaya helped create a temple called Wat Suwanmuntaram means Wat Ploen Thong, near the temple has a lot of persimmons. Some call it a measure of persimmon. Because the temple is located near Some old market

The persimmon measure is associated with King Thonburi the Great is King Thon Buri the Great when the time is. Phraya Wachiraprai has taken 500 soldiers to break the Burmese military break east to Thailand before losing Ayutthaya. To Burma is the second Phraya Wachiraprakarn. Battle of the dream led the partisans to move to the city of Rayong at this place Phraya Wachiraprakarn. Has established itself King Taksin By the acceptance of all hosts. When it moves into Chanthaburi (Chanthaburi), but Phraya Chantaburi is not submissive. To close the gate, the military ordered a strong defensive ramp. But eventually lost the deception of King Taksin by Luang Pichai volunteered. Call the commanding officer. This night will have to hit Chantaburi and get that evening. After the soldiers And the battalions finished eating. King Taksin Have commanded the commanding officer. We will hit Muang Chan on this evening. When the army cooks the evening meal, both the masters and the commoners, throw away the remaining food and smash the pot. Means to eat breakfast together in the city took tomorrow. If you can not hit town in the evening It will eventually die together to finally hit the city of Chantaburi successfully.

From ancient myths, the army of King Taksin will attack Chanthaburi. There is a Buddhist ceremony at Wat Phlap (Wat Phlap, Bang Kae Subdistrict, Mueang District, Chanthaburi Province) to build a royal flag and sprinkle holy water. With every soldier in the army In order to create military morale. Dare to be more national. To make be invulnerable Pass forever Beyond this Also to the merit of good fortune, as well.

Interesting inside the persimmon measure. The Tipitaka Cabinet A wooden box fell in love with gold. Watermark writing Ayutthaya Hall of the tri water in the middle. The structure is a Thai style wooden house. The double gable roof has a balcony around the tower. Finely decorated behind. Built in the pool The roof support pillars are the same. Water-gilded writing Has been restored In the year 2518 and has been renovated to the present. The central pagoda. It is a circular bell-shaped pagoda, tall, about 8 meters high, not decorated with high tiled base. The small bell has 4 parts, Ayutthaya art style. Has been restored In 1938, and restored to the present. Sacred pool According to legend, said: Have brought water The central pagoda at Wat Phlap is used to make water Buddha. In the ceremony of the various times of King Thon Buri the Great to salvage the land, that is, before the prince of Prague. (King Thon Buri the Great) to hit the city of Chanthaburi (Chanthaburi) came to the Buddhist ceremony. Bring the brave soldiers to sprinkle holy water to measure the persimmon before fighting to create morale. Because of the coronation of the King of the Chakri Dynasty. From the beginning of the dynasty. His Majesty King Bhumibol Adulyadej the Great King Bhumibol Adulyadej the Great King of Thailand today. Wat Phet Phra Buddha's water has collected water from sacred water sources in Chan City, including water from the cave of Narai. Tambon Klong Narai The water at Sa Kaeo, Ploy Rong together and the ceremony of bringing the Buddha's water Phutthaphisek 3 days and 3 nights at the temple Wat Phab. The wooden temple enshrines the statue. The temple is located north of the temple. The shape is a wooden house. Floor base The roof of the porch. At the top, adorned with a small pagoda. Machine or windmill It is a beautiful carved wood, the four sides were decorated with wooden stencil. Inside the wooden chedi built of wood, the whole back is about 8 meters wide, about 8 meters long, about 7 meters high, the wall is about 3.50 meters high and the top of the tetrahedron 3.50 meters. A local craftsman. But it is a pity that. Paintings on the wall Worn out Because the tile Roof of the chapel Causing rain to leak The paintings are almost obliterated. Fine Arts Department has restored this wooden temple once. By replacing the roof tiles. Restored in April 2003. Buddha statue practice Or commonly called Pangkor is a traditional Buddha image. Made in bronze cast bronze statue covered with gold leaf. Buddha The lap width of about 120 cm high at 2 meters built in the Ayutthaya period. After the construction of the measure of persimmon about 10 years, the debris is the same age. Buddha statue in the temple Buddhist statue practice. Set on a pedestal of marble after the declaration of registration as a historic site. In the year 2532 there is a story of the sacred. The statue of the Buddha statue, monks, statue if anyone who wishes to save the image of this Buddha. Should be point incense notice.

First, if not then. Will not be able to record the prang. Created in the year BE 2441, the Phra Prang, about 20 meters high, consists of 4 arches. The north door is a Rahu Chan. The Phra Prang is located on a two-storeyed pedestal with 4 stairs leading up to the top of the prang. There is a small chedi for the small pagoda. Adorned with four heads of elephants, the prang is a trumpet. An ancient burial site. Remaining at the only monolithic monastery in Thailand. It has a 5-storey roof, with spiers tiled. (Terracotta Tile cut a corner. The red side of the temple is covered with earthen veneer.) With a long season, the old boat has been broken down, but the repair has been completed. Still, the original shape of the statue was preserved by the Fine Arts Department since its inception. 1980 Traveling by private car From the city, take a ricochet out of the city about 5 km through the house, turn right into Highway 3147, when the camp is about 1 km to the left. In the same direction as Bang Kae market, about 200 meters away from the main road, the temple will be on the left. Group 1, Bangkae, Muang, Chanthaburi.

RECENT POSTS:
SEARCH BY TAGS:

Categories

bottom of page