top of page
Admin กางเต๊นท์คลับ

มังคุด Organic


มังคุดที่บ้าน ไม่เคยให้น้ำ ให้ปุ๋ย ให้ยาฆ่าแมลง ลูกจึงไม่สวย ขรุขระ ผิวด้าน แต่เชื่อไหมว่า รสชาติชนะมังคุดที่ผ่านกระบวนการเคมีอื่นๆ

Queen of Fruits ราชินีแห่งผลไม้

มังคุด ชื่อวิทยาศาสตร์: Garcinia mangostana Linn. เป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบเขตร้อนชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่เกาะซุนดาและหมู่เกาะโมลุกกะ แพร่กระจายพันธุ์ไปสู่หมู่เกาะอินดีสตะวันตกเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 24 แล้วจึงไปสู่ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส ปานามา เอกวาดอร์ ไปจนถึงฮาวาย ในประเทศไทยมีการปลูกมังคุดมานานแล้วเช่นกัน เพราะมีกล่าวถึงในพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 นอกจากนั้น ในบริเวณโรงพยาบาลศิริราชยังเคยเป็นที่ตั้งของวังที่มีชื่อว่า "วังสวนมังคุด" ในจดหมายเหตุของราชทูตจากศรีลังกาที่เข้ามาขอพระสงฆ์ไทย ได้กล่าวว่ามังคุดเป็นหนึ่งในผลไม้ที่นำออกมารับรองคณะทูต

มังคุดเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 6-11 ซม. ยาว 15-25 ซม. เนื้อใบหนาและค่อนข้างเหนียวคล้ายหนัง หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบสีอ่อนกว่า ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง สมบูรณ์เพศหรือแยกเพศ กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลืองติดอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง ฉ่ำน้ำ ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง แก่เต็มที่มีสีม่วงแดง ยางสีเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล จำนวนกลีบของเนื้อจะเท่ากับจำนวนกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร[2] เมล็ดไม่สามารถใช้รับประทานได้

ส่วนของเนื้อผลที่กินได้ของมังคุดเป็นชั้นเอนโคาร์บ ซึ่งพัฒนามาจากเปลือกหุ้มเมล็ดเรียกว่า aril มีสีขาว มีกลิ่นหอม[3] สารระเหยได้ส่วนใหญ่คือ hexyl acetate, hexenolและ α-copaene ส่วนล่างสุดของผลที่เป็นแถบสีเข้มที่ติดอยู่เรียงเป็นวงพัฒนามาจากปลายยอดเกสรตัวเมีย (stigma)มีจำนวนเท่ากับจำนวนเมล็ดภายในผล[4] เมล็ดมังคุดเพาะยากและต้องได้รับความชื้นจนกว่าจะงอก เมล็ดมังคุดเกิดจากชั้นนิวเซลลาร์ ไม่ได้มาจากการปฏิสนธิ เมล็ดจะงอกได้ทันทีเมื่อออกจากผลแต่จะตายทันทีที่แห้ง [5]

มังคุดมีพันธุ์พื้นเมืองเพียงพันธุ์เดียว แต่ถ้าปลูกต่างบริเวณกันอาจมีความผันแปรไปได้บ้าง ในประเทศไทยจะพบความแตกต่างได้ระหว่างมังคุดในแถบภาคกลางหรือมังคุดเมืองนนท์ ที่ผลเล็ก ขั้วยาว เปลือกบาง กับมังคุดปักษ์ใต้ที่ผลใหญ่กว่า ขั้วผลสั้น เปลือกหนา[1] ปัจจุบันมีการเพาะปลูกและขายบนเกาะบางเกาะในหมู่เกาะฮาวาย ต้นมังคุดต้องปลูกในสภาพอากาศอบอุ่น หากอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 4 °C จะทำให้ต้นมังคุดตายได้

มังคุดเป็นผลไม้จากเอเชียที่ได้รับความนิยมมาก มังคุดได้รับขนานนามว่าเป็น "ราชินีของผลไม้" อาจเป็นเพราะด้วยลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบเลี้ยงติด อยู่ที่หัวขั้วของผลคล้ายมงกุฎของพระราชินีส่วนเนื้อในก็มีสีขาวสะอาด มีรสชาติที่แสนหวาน อร่อยอย่างยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้[6][7] มีการนำมังคุดมาประกอบอาหารบ้างทั้งอาหารคาว เช่น แกง ยำ และอาหารหวาน เช่น มังคุดลอยแก้ว แยมมังคุด มังคุดกวน มังคุดแช่อิ่ม ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการทำมังคุดคัด ด้วยการแกะเนื้อมังคุดห่ามออกมาเสียบไม้รับประทาน[1] ในขณะที่ส่วนใหญ่จะนิยมรับประทางมังคุดสุกเป็นผลไม้ ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย และยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอีกด้วย [8] เนื้อมังคุดมีคุณค่าทางอาหารสูงโดยเฉพาะโพแทสเซียม โปรตีน สารเยื่อใย วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียมและแมกนีเซียม จากการตรวจวิเคราะห์พบว่าในน้ำมังคุด 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วยโพแทสเซียมปริมาณสูงถึง 87.14 มิลลิกรัม แคลเซียม 34.53 มิลลิกรัม และแมกนีเซียม 111.22 มิลลิกรัม

เปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน (โดยเฉพาะแมงโกสติน) แทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว แมงโกสตินช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ ฝนกับน้ำปูนใส แก้ท้องเสีย เปลือกแห้งฝนกับน้ำปูนใส ใช้รักษาอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย เปลือกมังคุด มีสารป้องกันเชื้อราเหมาะแก่การหมักปุ๋ย ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ มาเลเซียใช้เปลือกผลแห้งรักษาแผลเปิด[9]

ยางมังคุด มีประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมหลายประเภท เนื่องจากยางมังคุดใช้เป็นวัตถุดิบในการสกัดสารกลุ่มแซนโทน ซึ่งแต่ละชนิดที่มีฤทธิ์ทางยาที่แตกต่างกัน รวมทั้งมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนั้นยางมังคุดยังเข้ามามีบทบาทในการใช้เป็นสารเจือปนในอาหาร เพราะมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อStaphylococcus Aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้

มังคุดสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ได้หลายชนิดเช่น

1. น้ำส้มสายชูมังคุด เป็นการหมักเนื้อมังคุดด้วยเชื้อ Gluconobacter Oxydans จะได้ปริมาณกรดน้ำส้มอยู่ระหว่าง 4 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ คุณภาพของน้ำส้มสายชูที่ได้จะมีสีตามธรรมชาติ มีกลิ่นหอมของกรดน้ำส้ม มีลักษณะใส ไม่มีหนอนน้ำส้ม สิ่งสกปรกหรือสิ่งเจือปนอันใด ไม่มีตะกอนจากตะกอนที่เกิดโดยธรรมชาติของน้ำส้มสายชูหมัก ผลิตภัณฑ์น้ำส้มสายชูมังคุดเพื่อสุขภาพ อุดมด้วยโพแทสเซียม ปริมาณ 97.8 มิลลิกรัม แคลเซียม 3.3มิลลิกรัม แมกนีเซียม 13.7 ต่อ 100 กรัม และปริมาณกรดน้ำส้ม 4.68 เปอร์เซ็นต์

2. มังคุดไซเดอร์ ไซเดอร์เป็นเครื่องดื่มผลไม้ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ การผลิตไซเดอร์สามารถผลิตได้ 2 วิธี คือ แบบดั้งเดิมซึ่งเป็นการผลิตจากการหมักผลไม้ตามธรรมชาติโดยไม่มีการเติมยีสต์ อีกวิธีหนึ่งคือ การหมักผลไม้และเติมยีสต์เข้าไปเพื่อเร่งปฏิกิริยา การผลิตไซเดอร์จากมังคุดโดยวิธีการแบบดั้งเดิม คือหมักมังคุดตามธรรมชาติ คุณภาพของไซเดอร์จะขึ้นอยู่กับสี ความขุ่น ความเปรี้ยวความหวาน ความขม ความเค็มและกลิ่นรสผลไม้ รวมทั้งกลิ่นรสต่างๆ ที่เกิดจากการหมักด้วยเชื้อยีสต์ คุณลักษณะเหล่านี้มีผลทำให้ไซเดอร์เป็นที่นิยมของผู้บริโภค นอกเหนือจากการมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ไซเดอร์จากน้ำมังคุด ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงประกอบด้วยโพแทสเซียมสูงถึง 871 มิลลิกรัมต่อลิตร

3. มังคุดสำเร็จรูปชนิดเกล็ด เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จากมังคุด เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการใช้เนื้อมังคุดที่บดละเอียดมาทำการอบแห้งและแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำ (Freeze Dry) การทำผลิตภัณฑ์แช่แข็งอบแห้ง จะยังคงคุณค่าทางโภชนาการของมังคุดไว้อย่างครบถ้วน ประกอบด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมในปริมาณสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น รวมทั้งคุณประโยชน์ที่ได้จากใยอาหารและคุณค่าที่ได้จากสารประกอบกลุ่มแซนโทนโดยธรรมชาติจากเนื้อมังคุดล้วนในปริมาณที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายผลิตภัณฑ์มังคุดเกล็ด สามารถชงละลายได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นในปริมาณถ้วยละ 2 หรือ 3 ช้อนชา ชงดื่มมังคุดเกล็ด 1 ซอง (60 กรัม) จะได้คุณค่าครบถ้วนของมุงคุดสด 300 กรัม [10]

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกมังคุดมากเป็นอันดับต้นๆของโลก ไปสู่ในหลายๆประเทศทั่วโลกเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเนเธอแลนด์ โดยมีมูลค่าการส่งออกปีละมากกว่า 1,500 ล้านบาท มังคุดที่ถูกส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศมีทั้งในรูปของผลสดและมังคุดแปรรูป ภาคใต้จัดเป็นแหล่งปลูกมังคุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถผลิตมังคุดที่มีคุณภาพดีและมีรสชาติดีเมื่อเทียบกับมังคุดในภูมิภาคอื่นของประเทศ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จากการที่มังคุดมีเอกลักษณ์ทั้งในรูปร่างของผลที่สวยงาม และมีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจนได้รับฉายาว่า “Queen of Fruits” ในปัจจุบันมังคุดจึงจัดเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพสูงในการส่งออกของประเทศไทย และในอนาคตมีแนวโน้มว่ามังคุดจะมีความสำคัญมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากว่าประเทศไทยได้ทำหารขยายตลาดการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนซึ่งมีประชากรสูง ก็ให้ความสนใจกับไม้ผลชนิดนี้ด้วย [11]

Mangosteen Scientific name: Garcinia Mangostana Linn. It is a tropical evergreen type. Believed to be native to the Sunda Islands and the Maluku Islands, it spread to the West Indies around the 24th century, then to Guatemala, Honduras, Panama, Ecuador, and Hawaii. Long ago as well Because it was mentioned in the Ramayana celebrations of the reign of King Rama I, Siriraj Hospital was also the site of the palace. The "Mangosteen Garden Palace" in the Archives of the Sri Lama Plenipotentiary who came to ask the Thai monks. It has been said that mangosteen is one of the fruits that have been adopted by diplomats.

Mangosteen is a tall perennial of 10-12 meters, with yellow, single, oval, oval, oval or oval edges parallel to 6-11 cm long, 15-25 cm long. Behind dark green leaves is it. Leaves slightly lighter. Single or double Out at the leaflet near the end of the branch. Complete sex or sex Yellowish-green caulises are juxtaposed to juicy red petals. Juice is a relatively fresh, slightly rounded outer shell. The oldest is yellowish-red with a diameter of 4-6 cm. The flesh is white with juicy water. There may be seeds in the pulp. Depending on the size and age of the results. The number of petals of the flesh is equal to the number of petals on the bottom of the shell. Diameter 3-5 cm [2] Seed can not be eaten. The edible fruit pulp of mangosteen is angled. Which develops from a seed coat called aril, has a white color. [3] The most volatile substance is hexyl. Acetate, hexenol and Α-copaene. The bottom part of the dark band is stuck in a band developed from the tip of the stamens. (Stigma) is equal to the number of seeds within the fruit. [4] The mangosteen seed is difficult to cultivate and requires moisture until it germinates. Mangosteen seeds are produced from the cellulose layer. Not from fertilization The seed will germinate immediately upon leaving the fruit, but will die as soon as it dries. [5] Mangosteen contains only one native species. However, if the area is different, there may be some variation. In Thailand, there is a difference between mangosteen in the central region or mangosteen at the nontoxic place, with a long, thin shell with mangosteen in the southern hemisphere, where the fruit is larger than the short, thick peel. [1] It is currently cultivated and sold on the island. Some islands in the Hawaiian Islands Mangosteen trees must be planted in warm weather. If the temperature drops below 4 ° C, the mangosteen will die.

Mangosteen is a popular Asian fruit. Mangosteen has been dubbed as "Queen of fruits" may be due to the appearance of the effect of the sepal. At the root of the Queen's crown-like effect, the flesh is white. Sweet taste [6] [7] Mangosteen has been used to cook a variety of dishes such as spicy salami and sweet food such as mangosteen, banana jam, mangosteen, mangosteen, mangosteen, mangosteen. In Nakhon Si Thammarat, there are mangosteens. With mangosteen carcasses stuck out to eat a stick. [1] While most of the ripe fruit is cooked fruit. This is useful in helping to combat free radicals. Help strengthen the immune system. Helps to slow down aging and wrinkles. [8] Mangosteen has high nutritional value, especially potassium, protein, fiber, vitamin C, phosphorus, calcium and magnesium. The analysis revealed that 100 milligrams of mangosteen juice contained 87.14 milligrams of potassium, 34.53 milligrams of calcium, and 111.22 milligrams of magnesium. Mangosteen peels are an astringent. Is tanninson (especially mangosteen) tannins Make the wound heal faster Mangosteen helps to reduce inflammation and antibacterial action to cause pus well. In herbal medicine Use dry dried mangosteen peels, boiled with water or grilled. Rain with clear lime, diarrhea, dry skin, rain and clear lime. Used to treat bite, foot, and sores. Mangosteen peels contain antifungal agents suitable for fermenting the fertilizer. Oranges in Perak Malaysia uses dried peels to treat open wounds. [9] Mangosteen is very useful for many industries. Because mangosteen is used as a raw material for Xanthone Group Each of the different drug classes. Including the plastic industry. Mangosteen also has a role in the use of food additives. Because it is effective against Staphylococcus Aureus, which is a food poisoning.

Mangosteen can be processed into many useful products such as 1. Mangosteen vinegar It is fermented with mangosteen. Gluconobacter Oxydans will have about 4 to 5 percent orange juice. The quality of the vinegar is naturally colored. The aroma of acid orange juice is clear, no worm orange juice. Any impurities or impurities No sediment from the natural sludge of fermented vinegar. Mangosteen vinegar products for health. Rich in potassium of 97.8 milligrams of calcium, 3.3 milligrams of magnesium, 13.7 grams of 100 grams and 4.68 percent of acetic acid. 2. Mangosteen Cider Cider is a low alcohol beverage. Cider production can be produced in two ways, the traditional one, produced from natural fruit fermentation without the addition of yeast. Another way is Fruit fermentation and yeast filling for catalysis. Mangosteen Cider Production by Traditional Method Is a natural mangosteen The quality of the cider depends on the color, turbidity, sourness, sweetness, bitterness, salinity, and fruit flavor. Including various flavors. Caused by fermentation with yeast. These features have made cider popular with consumers. In addition to having health benefits. Mangosteen juice cider It also has high nutritional value.

With potassium up to 871 milligrams per liter. 3. Mangosteen finished scales A new product to enhance the variety of mangosteen products. Value added by using crushed mangosteen pulp to freeze and dry. To maintain the nutritional value of mangosteen in full. Contains potassium, magnesium and calcium in high doses compared to other fruits. Including the benefits of fiber and the value of the natural sulfonate compounds of mangosteen juice in the amount that is beneficial to the body products mangosteen scales. It can brew both hot and cold water in a cup of 2 or 3 teaspoons of mangosteen powder. One bag of 60 g of coconut milk will have the full value of 300 g. [10] Thailand is a very mangosteen export country. The top of the world Go to many countries around the world, such as United States, China, Japan, and Netherlands. With annual export value of more than 1,500 million baht, mangosteen is exported to overseas markets, both in the form of fresh and processed mangosteen. Southern Thailand is the largest mangosteen growing area in Thailand. Can produce mangosteen with good quality and good taste compared to mangosteen in other regions of the country. Because of the right environment. From the mangosteen is unique in shape of beautiful results. And sweet taste sour. It is a favorite of both Thai and foreigners to get the nickname "Queen of Fruits". At present, Mangosteen is a fruit that has high export potential in Thailand. And in the future it is likely that mangosteen will be more important as well. Because Thailand has done more to expand the export market. Especially China with high population. The focus is on this kind of fruit. [11]

RECENT POSTS:
SEARCH BY TAGS:
bottom of page